เผยวิธีทำเครปเค้ก จากหม้อหุงข้าว บอกเลยทำง่ายมากๆ


ทุกครั้งที่เอ่ยถึงเค้ก หมีขาวว่ามันเป็นขนมที่มีกระบวนการทำที่ค่อนข้างซับซ้อนนะ แถมอุปกรณ์ก็ยังต้องครบครัน แต่จะเชื่อมั้ยล่ะ…ว่าเครปเค้กสูตรนี้น่ะ แค่มี “หม้อหุงข้าว” ก็ทำได้แว้ว!!!




แน่ล่ะทำเครปเค้กจากหม้อหุงข้าวเนี่ยนะ แค่ฟังก็ไม่น่ารอดแล้ว แต่คุณ ‘สมาชิกหมายเลข 905595’ ได้ออกมาป่าวประกาศในพันทิปว่า “วิธีนี้ได้ผลจริง คุณแฟนพิสูจน์มาแล้ว” ส่วนรสชาติหน้าตาก็หายห่วง น่ากินเกินกว่าที่ใครหลายคนคาดคิดแน่

ส่วนวิธีทำจะเป็นอย่างไร หมีขาวขออนุญาติยกวิธีทำของเจ้าของกระทู้ท่านนี้มาเล่าให้ฟังน้า…


นี่คือรูปเครปเค้กที่ได้จาก “หม้อหุงข้าว”




มามะมาเริ่มทำกัน เริ่มต้นด้วยวัตถุดิบ

1. แป้งเค้ก 500 กรัม (จะร่อนแป้งหรือไม่ร่อนก็ได้นะคะ แต่ จขกท.ร่อนแป้งค่ะ เพราะว่ามันจะได้คนผสมกันได้ง่ายขึ้น)

2. น้ำตาลทราย 120 กรัม

3. ไข่ไก่ 8 ฟอง (ใช้ทั้งไข่ขาวและไข่แดง)

4. เนย 50 กรัม (นำไปตั้งไฟให้เนยละลายก่อน)

5. นมจืด 600 มิลลิลิตร (อุ่นนมให้พอร้อนนิดๆค่ะ)

6. กลิ่นวนิลา (ใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้แล้วแต่ค่ะ)

7. ผลไม้ตกแต่งหน้าเครปเค้ก (หรือแล้วแต่ใครอยากเอาอะไรแต่งก็ตามสะดวกจร้าาาา 5555)



ส่วนครีมปาดชั้นเครปของเราก็ใช้แค่

1. วิปปิ้งครีม

อุปกรณ์ที่ต้องใช้

1. โถผสมต่างๆ
2. ตระกร้อสำหรับตีแป้ง ตีไข่
3. หม้อหุงข้าวแบบเทฟลอน ตัวเอกของเรา
4. ถ้วยตวง ถ้ามีก็ดีค่ะ ถ้าไม่มีก็กะๆเอาค่ะ


วิธีทำ

1. นำไข่ทั้งหมด ตีผสมรวมกับน้ำตาลทรายทั้งหมด แค่พอเข้ากัน น้ำตาลละลาย ไม่ต้องตีขนาดขึ้นฟูหรือตั้งยอดได้
2. นำแป้งที่เราร่อนแล้ว หรือไม่ร่อนก็ได้ มาผสมต่อ โดยในระหว่างผสมแป้งลงไปให้ค่อยๆเทแป้งทีละน้อยๆค่อยๆคนผสมๆ ตีไปเรื่อยๆจนหมด ตีให้แป้งไม่เป็นเม็ด และเนื้อเนียนเข้ากันดี
3. ตามด้วยนำนมสดที่เราอุ่นเตรียมไว้แล้ว ค่อยๆเทเป็นสายเล็กๆลงไป ตีไปเรื่อยๆ หรือจะใช้วิธีการค่อยๆใส่ทีละน้อยๆ แล้วตีไปเรื่อย จนส่วนผสมเข้ากันได้ดีจนหมด
4. ตามด้วยเนยที่เราได้ทำได้ทำการละลายแล้ว ค่อยๆเติมทีละน้อยเช่นเดียวกับการเติมนม พยายามทำทุกขั้นตอนตามที่บอก อย่าใจร้อนเทพรวดเดียวหมด เพราะมันจะทำให้ส่วนผสมเข้ากันได้ไม่ดี และก็ยากต่อการผสมด้วยค่ะ
5. นำส่วนผสมที่ออกมาเนียนแล้วนี้ แช่ตู้เย็นไว้ ช่องปกตินะคะไม่ต้องถึงขั้นช่องฟรีสสสสส โดยปกติแล้วเค้าจะแช่กันไว้เป็นวันค่ะ ยิ่งนานยิ่งนุ่มค่ะ แต่นะ เราวัยรุ่นนนนนน ไง 5555 รอไม่ไหวคร้า ขอ 2 ชั่วโมงพอในการทำครั้งนี้ อิอิ


เราก็จะได้แป้งออกมาหน้าตาประมาณนี้ค่ะ

ระหว่างรอแป้งก็หั่นเตรียมผลไม้หรือของแต่งหน้าเครปเค้กไว้ หรือใครใคร่ทำอะไรก็ ไปๆ ทำกันค่ะ กร๊ากกกกกกก

เอาล่ะ คิดซะว่าครบ 2 ชั่วโมงแล้วนะคะ เรามาเริ่มทำแป้งเครปกันเลยดีกว่าค่ะ

ทีนี้หม้อที่ใช้นี้เป็นหม้อแบบกดเด้งๆ ธรรมดา ไม่ได้เป็นหม้ออุ่นทิพย์แต่อย่างใด ฉนั้นหากถามว่าใช้หม้ออุ่นทิพย์ได้มั้ย ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แฮ่ๆ หม้ออันนี้เป็นขนาด 1.4 ลิตรค่ะ (บอกเพื่อว่าจะได้จินตนาการขนาดมันถูก อิอิ) ตอนที่ตักแป้งเนี่ย จขกท.ใช้ถ้วยตวงขนาด 1/4 Cup หรือ 60 Ml. ในการตักแป้ง ไปทำแผ่นเครป จะได้ขนาดและความบางพอดีเลยค่ะ ใครไม่มีถ้วยตวงก็ลองกะๆเอาค่ะ ลองทำให้ได้แป้งแผ่นบางๆพอดีๆ


6.ตักแป้งลงไปในหม้อหุงข้าวเทฟลอนเลยค่ะ จับหม้อเอียงๆกลิ้งๆแป้งให้ทั่วก้นหม้อค่ะ แล้วกด Cook ได้เลยค่ะ


7. ดูให้แป้งพอสุกๆเหลืองๆนิดหน่อยก็พอ ก็หาตัวช่วยมาช่วยพลิกด้านมันค่ะ เพื่อให้อีกด้านสุกเช่นกัน แต่ไม่ต้องถึงขนาดให้แป้งกรอบนะคะ ให้พอสุกแต่ยังมีความนุ่มๆอยู่ ส่วนไฟก็เปิด Cook แบบนั้นไปตลอดค่ะ ถ้ามันเด้งก็กดใหม่ไปเรื่อยๆค่ะ





ตอนที่ได้แป้งแผ่นแรกมาดีใจมว๊ากกกกกกกก ไม่คิดว่ามันจะเป็นแป้งให้ อ้อ ในการทำครั้งนี้ ครั้งแรก ขอบอกว่าแป้งไม่ติดก้นอย่างที่ใครๆเป็นปัญหานะคะ เพราะในตัวแป้งมันมีเนยอยู่แล้วบวกกับใช้หม้อเทฟลอนก็เลยไม่เห็นติดแฮะ





8. ทำแป้งไปเรื่อยๆทีละแผ่นจะหมดนะคะ เอาแป้งที่ได้มาเรียงๆกันไว้ดูซิว่าได้กี่แผ่นกัน



จขกท. ได้แป้งออกมาทั้งหมด 26 แผ่นค่ะ ซึ่งโดยปกติแล้ว เค้าว่ากันว่าในการทำเครปเค้ก ซัก 17-20 แผ่นจะกำลังดีค่ะ เพราะถ้าเยอะไปแบบของ จขกท. เวลาตัดเครปเค้กทานเนี่ย แผ่นเครปมันปลิ้นค่ะ แต่ด้วยความ งก ไหนๆก็ทำแล้วเลยทำให้มันหมดๆไปค่ะ แฮ่ๆ

9. เมื่อเราทำแป้งเครปจนหมดแล้วก็พักแป้งทิ้งไว้เฉยๆให้เย็นค่ะ

10. ระหว่างรอแป้งเย็น เราก็มาตีวิปปิ้งครีมกันดีกว่าคร้าาาาาา เพื่อใช้ในการปาดชั้นเครปเค้กแต่ละชั้นกันค่ะ



สู้ๆ ฮึบๆ ท่องไว้ว่ามันต้องขึ้นฟูค่ะ อย่างท้อแท้เห็นเป็นน้ำ ไม่เป็นครีมฟูซักที แล้วเลิกนะคะ

อุปกรณ์ในการตีวิปครีม มีเท่านี้ค่ะ
1. โถหรือชามสำหรับตี
2. วิปปิ้งครีม ยี่ห้ออะไรก็แล้วแต่สะดวกเลยค่ะ ใครอยากได้หวานเพิ่มเติมน้ำตาลไอซิ่งไปในวิปปิ้งครีมก่อนตีค่ะ หรือซื้อยี่ห้อที่มีรสหวานหน่อย แต่โดยส่วนตัว จขกท. ไม่ชอบแบบหวานๆชอบแบบมันๆของนมค่ะ
3. ตระกร้อตีมือ
**** เทคนิคในการตีวิปครีม คือ วิปปิ้งครีมต้องเย็นจัด (แต่ไม่ต้องถึงขั้นเอาไปแช่ฟรีสน้าาาา) โถ หรือ ชามที่ใช้แนะนำให้เป็นแก้ว หรือสแตนเลส นำไปแช่ช่องฟรีสซักพัก อ้อ รวมถึงตระกร้อที่ใช้ตีด้วยค่ะ เอาไปแช่ด้วยกันโลดดดดดด คือทุกอย่างต้องเย็นจัดนั่นเอง จะทำให้ตีวิปครีมขึ้นฟูง่ายมากค่ะ
เวลาตีวิปครีมก็ตีให้แรง และเร็ว เพื่อนำอากาศเข้าไปในตัววิปปิ้งครีมให้มากที่สุดค่ะ อย่าท้อนะคะ จากเป็นน้ำมันก็จะเริ่มเป็นครีมทีละนิดๆ จนเป็นวิปครีมให้เราเองค่ะ อาจจะใช้เวลาซักนิดนึงแต่ขึ้นแน่นอนค่ะ ใครเมื่อยก็ไปลากหัวเพื่อน หรือคนข้างๆมาช่วยกันผลัดกันตีค่ะ ใครหัวแตกก่อนชนะ เฮ้ยยยย
ไม่ใช่ละ!!!!!!

ลืมบอกค่ะ วิปครีมนี่เราทำทีละชามก็ได้นะคะ เผื่อมันเหลือ เอาไว้ถ้าเกิดว่าทาแล้วมันไม่พอ ก็เอาแป้งที่ทาแล้วไปแช่ตู้เย็นไว้ก่อนเด่ววิปครีมจะเยิ้มซะหมด แล้วมานั่งตีวิปครีมใหม่ค่ะ



เย้เย!!!!! สุดท้ายของ จขกท. ก็ออกมาเป็นวิปครีมแล้วคร้าาาาาาาาา

ต่อค่ะ ทีนี้วิปครีมได้แล้ว แป้งเย็นแล้ว เราก็มาเริ่มขั้นตอนต่อไปค่ะ

11. นำวิปครีมมาปาดให้ทั่วแผ่นบางๆไปบนแผ่นแป้งทีละแผ่นค่ะ



ทาไปค่ะ ทาไป ห้ามบ่น!!!!! ทาให้หมดจนครบทุกแผ่น


ขอบอกนิดนึงค่ะว่า จขกท.ใช้วิปปิ้งครีมที่เหลือๆอยู่ในตู้เย็นประมาณครึ่งกล่องค่ะ เลยตีได้แค่ชามเดียว เลยต้องปาดวิปครีมแต่ละชั้นแบบบางเว่อร์ๆเลยค่ะ เพราะกลัวมันจะไม่พอ หากใครซื้อมาแบบเต็มกล่องก็ปาดกันได้ตามสบายเลยนะฮ๊าฟฟฟฟฟฟ (เค้าไม่ได้ งก นะ แค่เสียดายของ อิอิ)

เมื่อปาดวิปครีมหมดทุกแผ่นแว้วววววววว ดูเหมือนเครปเค้กเราจะสูงขึ้น เพราะว่าเรามีวิปครีมมาเพิ่มในแต่ละชั้น ทีนี้ตัวเครปเค้กของเราก็เสร็จแล้วค่ะ มาตกแต่งกันไปตามสไตล์ใครไสตล์มันเลยค่ะ



ทีแรกจะเอามาหั่นกินแว้วววววว เหลือบไปเห็นกีวี่เหลือๆในตู้เย็น เฮ้ยยยย มีตั้ง 1 ลูกแน่ะ เอามาหั่นวางให้สวยๆไปเลย (ปล.สวยได้เท่าที่เห็นนะ ได้เท่านี้จริงๆ) ใครมีกำลังซื้อผลไม้สวยๆน่าทานๆ หรือตกแต่งได้เก๋ไก๋ ก็ตามสไตล์เลยค่ะ ทำให้แฟน ให้ครอบครัว ให้เพื่อน ให้ที่ทำงาน ทำเค้กวันเกิดอะไรก็ว่ากันไป น่ารักไปอีกแบบค่ะ

นำเครปเค้กมาหั่นแบ่งชิ้น พร้อมทาน!!!!!!! ใครใคร่ทานกับซอสสตอเบอรี่ ซอสชาเขียวอะไรก็ว่ากันไป จขกท.ทำซอสชาเขียวเตรียมไว้แล้วอยู่ในตู้เย็น ส่วนซอสสตอเบอรี่ซื้อในซุปเปอร์มาเก็ตมาค่ะง่ายดี แหะๆ




เหลือเชื่อมั้ยล่ะว่าเครปเค้กหน้าตาน่าหม่ำเหล่านี้ มาจาก “หม้อหุงข้าว” ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เห็นทีหมีขาวคงต้องลองมั่งละ หวังว่ารสชาติจะออกมาฟินน้าา

ขอบคุณสูตรภาพและข้อมูลจาก สมาชิกหมายเลข 905595

ติดตามข่าวด่วน เกาะกระแสข่าวดัง บน Facebook คลิกที่นี่!(Like)
ชื่นชอบข่าวนี้ อยากแชร์ต่อให้เพื่อนๆ

Previous
Next Post »