คน(เคย)รัก ยืมเงินแล้วไม่คืน!! ชีวิตนี้แทบล้มทั้งยืน เสียเงินไปกว่าครึ่งล้าน ยังโดนเมียเขาตามราวี

เรื่องราวต่อไปนี้ Boxza ขออนุญาตให้สาวๆที่ได้อ่านจำไว้เป็นบทเรียนเลยนะคะ ตราบใดที่คุณยังมีฐานะเป็นเพียงแค่ "แฟน" ขอให้ละเอียดอ่อนเรื่องเงินเข้าไว้ เพราะไม่แน่ว่าคนรักปากหวานเหล่านั้น มันคือยาขมเคลือบน้ำผึ้งดีๆนี่เอง ดังเช่นเรื่องราวของหญิงสาวคนนี้..
                                  เราเจอคนรักในคราบมิจฉาชีพ หมดเงินครึ่งล้าน

           เมื่อประมาณช่วงต้นปีที่แล้วเราได้รู้จักผู้ชายคนนึง ชื่อว่าโอม (นามสมมติ) ซึ่งเค้าอายุมากกว่าเรา 10 กว่าปี เราได้คบหากันเป็นแฟน ในตอนนั้นก็เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน โอมเป็นคนชอบรถ(เก่า)โบราณ โอมมักจะเล่าให้เราฟังบ่อยๆเกี่ยวกับเรื่องรถพวกนี้ โอมเล่าให้เราฟังว่าเคยนำรถเก่ามาเปิดเป็นร้านขายเหล้า ร้านขายน้ำอัดลมโบราณตามตลาดนัดรถไฟ แต่ได้เลิกทำไปแล้วเพราะเหตุผลส่วนตัว

          และโอมก็อยากที่จะทำธุรกิจแบบเดิมอีก โอมจึงมาขอยืมเงินเรา โดยบอกว่าถ้าเปิดร้านแล้วจะคืนเดือนละ 20,000 บาท ด้วยความที่เราเป็นคนเชื่อคนง่ายไว้ใจคนง่าย บวกกับเค้าเป็นคนพูดจาดีตลอดน่าเชื่อถือ และเห็นว่าคบกันเป็นแฟนจะสร้างอนาคตด้วยกัน เราก็อยากจะมีธุรกิจส่วนตัวเพื่อแบ่งเบาภาระพ่อแม่ เราจึงให้เงินโอมไปซื้อรถ(กระบะ)โบราณคันแรก ด้วยเงิน 200,000 บาท    

          เมื่อผ่านไปประมาณ 2 อาทิตย์ เค้าบอกว่ามีรถเต่า(โบราณ)ขาย สวยดี เค้าอยากจะซื้อไว้  เพราะว่ารถแบบนี้สามารถนำมาขายต่อได้ราคา ไม่ขาดทุนหรืออาจเท่าทุน เพราะมีคนอยากได้รถคันนี้อยู่เยอะ เราก็ได้ให้เงินโอมไปซื้อรถเต่าอีก 230,000 บาท รถเต่ากับรถกระบะโบราณเค้าก็เอาไปมิตติ้งกับพี่ๆที่ถนนสวยๆที่นครปฐมอยู่บ่อยๆ พี่ๆทุกคนในชมรมรถเก่านี้ก็คิดว่าเป็นเงินของโอมแต่จริงๆคือเงินของเราทั้งนั้น และค่าใช้จ่ายต่างๆที่ใช้ในการทำ(ตกแต่ง)รถบาร์(ขายเหล้า) เราเป็นคนออกไปเยอะพอสมควรประมาน 157,000 บาท 

          ยังไม่รวมค่าอื่นๆที่เค้ายืมไปอีกหลายๆครั้ง ซึ่งเงินทั้งหมดที่เราให้ไปไม่ได้ทำสัญญาเงินกู้กันเลย ให้เป็นเงินสดทั้งหมด(รถบาร์ที่ทำคือทำจากโรงงานเฟอร์นิเจอร์ของญาติโอมอยู่ถนน 345 ค่ะ) 

          จนกระทั่งช่วงต้นเดือนกรกฎาคม มีผู้หญิงทักไลน์มาหาเราบอกว่าเค้าเป็นเมียโอมนะ ใจเรานี่หายไปอยู่ตาตุ่มและเวลานั้น เราเลยบอกว่าขอคุยกะโอมก่อนเพราะโอมเอาเงินเราไป พอเราไปคุยกะโอม โอมบอกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนเก่าเลิกไปนานแล้วแต่ผู้หญิงคนนี้ยังมาวุ่นวาย   โอมขอให้เราบล๊อกไลน์ผู้หญิงคนนี้ เราก็บล็อกเพราะไม่อยากวุ่นวายอะไร แต่ก็ไม่วายผู้หญิงคนนี้ทัก whatapp มาด่าเราอีกมากมาย เราก็ไม่โต้ตอบเพราะเราเหนื่อยกับเรื่องแบบนี้

          เราเลยตกลงเลิกกับโอมต้นเดือนสิงหาคม โดยที่เมียของโอมก็ยังพยายามหาเรื่องเรามาอีก ตามมาด่าเราสารพัด จนถึงขั้นโทรมาหามหาวิทยาลัยที่เราเรียนอยู่ ว่าเราไประรานเค้า ซึ่งเราเลิกกะโอมไปแล้ว เหลือแค่เงินที่เราต้องทวง จนเราทนไม่ได้ให้เพื่อนพาไปแจ้งความเพราะผู้หญิงคนนี้เอารูป ข้อมูลคนไข้ของเราจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งแถวเดอะมอล์งามวงศ์วานออกมาให้คนอื่นดู เหมือนประจานเราว่าเราหน้าตาไม่ดี ไม่สวย ทำให้เราเสื่อมเสีย

          โดยที่ข้อมูลที่ผู้หญิงคนนี้เอาออกมาเป็นข้อมูลส่วนตัว ที่เราไปรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลมีทั้งเบอร์โทร ชื่อที่อยู่ ประวัติการรักษา ซึ่งมันไม่สามารถเปิดเผยได้หากไม่ได้รับอนุญาต ที่ผู้หญิงคนนี้ทำได้เพราะนางเป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้ และเราก็เอาใบแจ้งความไปยืนคำร้องที่โรงพยาบาล สุดท้ายทางโรงพยาบาลบอกว่าผู้หญิงคนนี้ยอมรับว่าทำจริง  และทางโรงพยาบาลได้ทำการตักเตือนไปแล้ว   

              มาเรื่องของเรากะโอมต่อ ตอนเราตัดสินใจเลิกกะโอม เราก็คุยเรื่องเงินว่าจะคืนยังไงเมื่อไร โอมบอกว่าสินเดือน(สิงหาคม)จะทยอยคืนให้ เราก็ตามเรื่อยๆรอจนสิ้นเดือนก็ไม่คืนโอมอ้างว่ารอเพื่อนที่ติดเงินคืนเงินอยู่ เราก็รออีกเป็นอาทิตย์ก็ไม่คืน พอเราทวงไปโอมบอกว่าเราพูดมากเดี๋ยวไม่คืนสะหรอก และเมียของโอมก็ยังส่งข้อความมาหาเราทำนองว่าสมน้ำหน้า น่าจะให้หมดตัวก่อน และพูดทำนองว่ารายเรานี้แย่หน่อยนะ เหมือนว่าผู้ชายคนนี้เคยทำแบบนี้กับคนอื่นมาก่อน ทำให้เราแน่ใจว่าเราไม่มีทางได้เงินคืนแน่ๆ มั่นใจว่าโดนโกงแล้ว

          เราจึงให้พี่(คนรู้จัก)พาเราไปแจ้งความแต่ตำรวจไม่รับแจ้ง เพราะเราไม่มีหลักฐานเพียงพอว่าเค้าได้เอาเงินเราไปจำนวนเท่านี้(มีแค่บทสนทนาในLineเท่านั้น) กลางเดือนนั้นเราก็ได้ทวงถามอีก โอมก็ยืนยันที่จะไม่คืนพร้อมท้าให้เราไปแจ้งตำรวจมาเลยไม่กลัว เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด และยังบอกอีกว่าพ่อเป็นทหาร พี่เลยให้เราไปหาโอมที่บ้านไปคุยกับแม่โอมเลย เพราะผู้ใหญ่น่าจะตกลงกันได้ เราก็ไป    

          พอไปถึงมีผู้หญิงออกมาแต่เมื่อเราถามหาโอมเค้าบอกว่าไม่อยู่ และพอเราพูดให้ฟังว่าเค้าเอาเงินเราไปซื้อรถ เค้าบอกแค่ว่าไม่รู้เรื่องเป็นแค่ป้าห่างๆ นายโอมแค่มาฝากจอดรถไว้แค่นั้น พี่เราจึงชวนเรากลับเพราะคุยไปก็เท่านั้นดู แล้วเหมือนคนพูดโกหกไม่สบสายตาเวลาตอบ ในวันนั้นโอมก็ได้ไลน์มาหาเราบอกว่าไปข่มขู่แม่เค้า ทำให้เรารู้ว่านี่เป็นแม่ไม่ใช่ป้า เมื่อเราทวงไม่ได้ คุยกันไม่รู้เรื่องเราจึงให้พี่สาวเราช่วยตาม พี่สาวเราก็พูดดีตลอดแค่จะคุยเรื่องเงินแต่โอมก็ไม่คุยบ่ายเบี่ยงตลอด      

          ล่าสุดเราโทรหาเค้าวันที่ 21 เมษา 58  ไม่รับสายและไม่โทรกลับ วันที่ 22 เมษา 58 เราโทรไปใหม่  ซึ่งเค้ารับแต่บอกแค่ว่าไม่มีเงินคืน กำลังติดธุระอยู่และตัดสายเราไป  ตอนนี้เรารู้มาว่าเค้าได้เปิดร้านขายเหล้าอยู่ที่ตลาดนัดรถไฟรัชดา

          เรื่องก็ผ่านมานานพอสมควรเราก็ยังทวงเงินไม่ได้แม้แต่บาทเดียว ถ้าเพื่อนๆมีทางช่วย หรือถ้ารู้ว่าต้องจัดการยังไงกับเรื่องนี้ ก็ช่วยเราด้วยนะคะ เราจนปัญญาแล้วพยายามทุกวิธีก็ยังไม่ได้เงินคืนเลย ถ้าใครอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมก็ทักหลังไมค์มาได้คะ เรามีรูป มีแชท มีหลักฐานหมด(แต่เอาผิดทางกฎหมายไม่ได้) ไม่อยากลงกลัวโดนหมิ่นประมาทคะ รายละเอียดในการตามทวงเงินมีอีกเยอะแต่เราเรียบเรียงคราวๆเท่านี้นะคะ

             ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็นในกระทู้ของเรา เราเชื่อว่า  “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว”

                     เพิ่มเติมบทสนทนาบางส่วนในlineนะคะ เป็นตอนที่เราเลิกแล้วตามทวงเงิน


เจอแบบนี้เข้าไป ไม่ว่าใครก็ช็อคกันทั้งนั้น!! แต่ในสภาพทางกฏหมายจริงๆ เบื้องต้นที่Boxzaทราบมา การให้โดยปราศจากสัญญาก็ถือเป็นการให้โดนเสน่ห์หา ไม้สามารถเรียกคืนใดๆ ได้ ทีนี้ก็คงต้องพึ่งสามัญสำนึก นิสัยใจคอ และสภาพความหนาของหน้าฝ่ายชายแล้วล่ะค่ะ!! ขอเป็นกำลังใจให้อย่างสุดซึ้งเลย แหม..พ่อตัวผู้ ไม่รู้จักพอยังน้อยไป อาศัยเกาะ!ผู้หญิงอีกนะ





ที่มา : http://news.boxza.com/view/28811




Previous
Next Post »